วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เกษตรพึ่งตนเอง ทำได้เฉพาะคนมีตังหรอ ?

ผมเข้าไปอ่านเจอในกระทู้ของเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ที่พูดเกี่ยวกับเรื่องของการทำเกษตรพอเพียง ตามแนวทางพ่อหลวง แล้วมีคนนึงถามว่า ครที่ทำเกษตรพอเพียงนี้ จะต้องเป็นคนมีตังหรือ ? ถึงจะออกมาทำเกษตรแบบนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีทุนหรือ ถึงต้องออกมาทำแบบนี้ได้

ผมตอบในที่นี้เลยครับ ในความคิดของผม ผมยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ ผมมีที่ดินมรดกของบรรพบุรุษ มีที่นาที่ได้มาจากพ่อแม่ ครอบครัวผมมีทุนก็จริงครับ แต่มองอย่างคือ ก่อนหน้าพ่อกับแม่ผมก็ต้องทำงานหนัก ถึงรักษาที่ดินเหล่านี้ได้ ไม่งั้นคงขายกินไปนายแล้ว เราต้องลำบากมาก่อนครับเพื่อสร้างทุนให้ตนเอง

ไม่มีอะไรที่ทำแล้วได้กำไรเลยหรอกครับ เงินไม่ใช่ได้มา โดยที่เหงื่อไม่ออก นี่สิเป็นสิ่งที่น่าสงสัย น่าผิดกฎเกณฑ์ธรรมชาติ คนที่ถามว่า "ทำเกษตรพอเพียง จำเป็นต้องมีทุน จำเป็นต้องเป็นคนที่มีฐานะ ใช่หรือไม่" ใช่ ครับ เราต้องลำบากในการสร้างทุนก่อน แล้วค่อยพัฒนาต่อยอด หาช่องทาง มันต้องมีการ คิด วิเคราะห์ ศึกษา ทดลอง ก่อนถึงจะประสบผลสำเร็จได้

ไม่ใช้ว่า คนไม่มีอะไรเลย จะมาทำ เพื่อให้ตัวเอง รวย มั่ง คั่ง พออยู่พอกิน ใน 2-3 ปี หลังจากเริ่ม ไม่มีหรอกครับ เราจะต้องเตรียมตัว วางแผน แล้วค่อยๆ ลงมือทำ ทำผิด แล้วกลับไปวางแผนใหม่ จนกว่าจะสำเร็จ นี่สิครับ คือการใช้ชีวิต

คนที่รีบ เพราะเขาเป็นคนมักง่าย มักได้ โลภ สายเกษตรพอเพียง เกษตรพึ่งตนเอง เค้าได้สอนให้เป็นคนแบบนี้

ทำความรู้จักชื่อเว็บบล็อก

   ชื่อ IM KRISSADA ได้มายังไง วันนี้จะมาเฉลยให้ฟัง IM คือ ผมคนนึงที่คลั่งไคล้การทำ Internet Marketting เป็นอย่างมากเพราะผมจบมาด้านนี้ ผมจบสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และ KRISSADA ก็คือชื่อจริงของผมเอง
    จากการศึกษา ด้าน IM ผมได้ทำความเข้าใจการทำงานของ Google เว็บค้นหาข้อมูลออนไลน์อันดับหนึ่งของโลก และผมใช้เวลาอยู่กับระบบนี้มาทั้งหมด 5-6 ปี ทำความรู้จัก ทำความคุ้นเคยกับมันมาก็นานพอสมควร ที่ไม่สามารถตีสนิทกับ google ได้ เพราะในแต่ละปีเค้าพยายามปรับเปลี่ยนระบบเพื่อตีตัวออกห่างเรา ทำให้ผมเข้าไม่ถึงเค้าสักที และที่ผ่านมานั้นผมก็ยังไม่สามารถตีโจทย์ที่แสนจะยากของระบบนี้ได้
    IM คือหนึงในเป้าหมายของผมในการดำรงชีวิตในวันข้างหน้าผมหวังจะใช้มันสร้างรายได้จากตรงนี้ แล้วเอาส่วนนี้ไปต่อยอดในอาชีพด้านเกษตรกรของผม ก่อนหน้านี้ผมรับทำเว็บไซด์ ทำตามดีไซด์ของลูกค้า บางครั้งผมทำตามดีไซด์ ของผมเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภค ไม่ต้องการเน้นที่รูปแบบหน้าตา แต่พวกเค้าจะเน้นที่เนื้อหา รายละเอียดของเว็บมากกว่า เช่น ถ้าคุณจะซื้อมือถือออนไลน์ คุณจะเน้นซื้อที่เว็บสวยทันสมัย หรือ เว็บที่มีการรีวิว เปรียบเทียบ ข้อมูลสินค้าให้ดูชัดเจน เป็นต้น

เห็นมั้ยครับว่าถ้าหากผู้บริโภคยังต้องการข้อมูลเว็บมากเท่าไหร่ วงการ IM ก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ว่าด้วยเรื่อง ปอเทือง ปุ๋ยพืชสด

วันนี้นั่งอ่านเซ็บเกี่ยวกับการทำเกษตร การทำนา เพื่อหาข้อมูล เลยเอาวิธีการปรุงดิน ให้ดินเค็ม ดินเปรี้ยว กลายเป็นดินที่มีประโยชน์โดยการเน้นทำด้วยวิธีเอาธรรมชาติ ปรุงแต่งด้วยธรรมชาติ มันเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าน่าศึกษาเรื่องนึงเลยทีเดียว จากพื้นที่แห้งแล้ง ทำนาครั้งเดียว แต่มีเกษตรกรบางกลุ่มเค้าเล็งเห็นประโยชน์และวิธีการปรุงแต่งดินให้สมบูรณ์ เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
"ปอเทือง ปุ๋ยพืชสดชั้นดี" วันนี้gลยจะนำผลที่ได้จากการปลูกปอเทือง ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจาก เพจ "กลุ่มปลูกปอเทือง แก้หนี้แก้จน" มาดูครับว่ามันได้ผลอย่างไร

ประโยชน์ของปอเทือง ปุ๋ยพืชสด มีดังนี้
1. เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (น้าหนักสด 2-7 ตัน/ไร่ = การใส่ปุ๋ยหมัก 800 - 2,800 กก./ไร่ )
2.บารุงและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มธาตุไนโตรเจนซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักให้แก่พืช
3.กรดที่เกิดจากผุผังของพืชปุ๋ยสดช่วยละลายธาตุอาหารในดินให้แก่พืชได้ดีมากยิ่งขึ้น
4.ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินและทาให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เสมือนคลุกเคล้า/ฝังฟองน้ำจำนวนมากไว้ในดิน
5.ทำให้ดินร่วนซุยสะดวกในการเตรียมดินและไถพรวน เพราะมีอินทรียวัตถุเข้าไปแทรกระหว่างเม็ดดิน
6. ช่วยในการควบคุม ปราบหรือตัดวงจรวัชพืชบางชนิดได้เป็นอย่างดี พืชปุ๋ยสดที่แนะนำเจริญเติบโตเร็ว
7. ลดการปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้มาก ใช้ในการเพิ่มธาตุอาหารเพื่อทาเกษตรอินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8.ลดอัตราการสูญเสียอันเกิดจากการชะล้าง รากช่วยเกาะยึดดิน ขณะที่ต้นช่วยคลุมดิน ลดการกระแทกเม็ดฝน
9. เพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น เพราะกระบวนการใช้พืชปุ๋ยสดช่วยเพิ่มเติมความเหมาะสมหลายอย่างให้แก่ดิน


เห็นมั้ยครับว่าประโยชน์มันดีแค่ไหน เดี๋ยวครั้งหน้าจะเอาเรื่องเกี่ยวกับการปลูกและวิธีการเตรียมดินมาฝากอีกครับ วันนี้ขอตัวทำงานก่อน

อนาคตมันไม่แน่นอน ถ้าเราไม่แน่วแน่พอ

ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตโครงการที่ผมสร้างนี้มันจะเป็นอย่างไร มันจะสามรถทำให้ผมเป็นเกษตรกรเต็มตัวได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ผมยังไม่เริ่มทำ ตอนนี้ผมเป็หนี้ ทั้งหมด 300,000 บาท(รวมรถ Bigbike) นับจากวันนี้ จำไว้นะครับ วันนี้ผมจะต้องทำการปลดหนี้ที่มีอยู่ให้หมดซึ่งลองมาวิเคราะห์แล้ว รายได้มาจากช่องทางดังนี้ นี่คือเป้าหมายที่วางไว้
- จากเงินเดือนงานประจำ 20000 บาท ต่อเดือน (รายได้ ตายตัว)
- จากการรับงานซ่อมคอม ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ 3000  บาทต่อเดือน (รายได้ ไม่ตายตัว)
- รับงานตัดสินบอลสนามเช่า 3500 บาทต่อเดือน (รายได้ ไม่ตายตัว)
 ซึ่งจากที่วางเป้าหมายไว้นี้ ต้องปลดหนี้ให้หมดภายใน ปี 2560-2562 ทั้งหมดทุกบาท
ที่วางเผื่อไว้เพราะ ต่อหน้าอนาคตไม่รู้ว่าเราจะเป็นยังไง จะเกิดอะไรขึ้น

ผมแค่อยากจะบันทึกบทความเล่านี้เอาไว้เพื่อเตือนความจำ หากสักวันนึงผมเข้าอ่านมัน จะทำให้ผมได้กลับมาคิดได้ว่า ก่อนหน้านี้เป้าหมายของผมคืออะไร จะได้เล็งเป้าหมายนี้ให้ตรงจุด และแน่วแน่ ไม่ให้เราว๊อกแว๊ก...


บทที่ 3 : กำหนดเป้าหมายชีวิต

เชื่อมั้ยครับว่าผมซื้อหนังสือมาหลายต่อหลายเล่ม อ่านหนังสือก็เยอะ แต่ไม่เคยกล้าตัดสินใจสักที และหลายต่อหลายคนที่เป็นพนักงานออฟฟิตก็มีความฝันเหมือนกับผมนั่นคือ อยากลาออกจากงาน อยากหลุดพ้นกับวงจร มนุษย์เงินเดือน ไม่อยากเป็นลูกน้องใคร แต่เชื่อมั้ยครับว่า 80% ออกจากงานแล้ว อยากออกมาทำธุรกิจของตัวเอง 50% ของคนยุคใหม่ที่ออกจากงาน อยากเปิดร้านกาแฟ เปิดร้านเบเกอรี่  กว่า 40% อยากเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เพราะความอยากรวย จึงหาวิธีรวย ด้วยการเล่นหุ้น ซื้อกองทุน เพื่อต่อยอดเงินที่ตัวเองมี บางครั้งบางคนผมเจอกระทู้ พนักงานบริษัทบางคนลาออกจากงานด้วยเงินเก็บ เพียง 20000 บาท เท่านั้น เอาไปทำไรได้ครับ

ไม่ใช่ว่าการทำงานบริษัทไม่ดีนะครับ ผมคนนึงล่ะเชื่อว่างานบริษัทที่เราทำนี่มันดี แต่ต้องทำงานที่เกี่ยวสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราถนัด และสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้ เก็บประสบการณ์ที่เคยทำ ไว้เพื่อเป็นพื้นฐานนำไปต่อยอดในวันข้างหน้า ถ้าใครยังสนใจทำงานเช่นนี้อยู่

น้อยมากที่จะตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อไปทำเกษตรกร เพียงเพราะกว่า ตนอื่นหาว่าจน คนอื่นมักเหยียดหยาม แต่ผมไม่เลยครับ แต่เราต้องสร้างพื้นฐานก่อน วางแผนก่อน กำหนดเป้าหมายก่อน และสิ่งที่ผมต้องทำก่อนทำการลาออกจากงานตอนนี้คือ
สิ่งที่ต้องทำ
1. เตรียมการเก็บออมเงินในการใช้จ่ายเพื่อเป็นทุนดำเนินงานขั้นแรก (ใช้เวลา 3 เดือน)
2. จัดทำเว็บไซด์เพื่อสร้างรายได้ จาก IM เพื่อวางเป็นฐานในการสร้างชีวิต (ในขณะที่ยังทำงานประจำอยู่) (ใช้เวลา 6 เดือน)
3. ทำการโปรโมทเว็บไซด์ KDCYBERGROUP.COM เพื่อสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง และดำเนินธุรกิจดังกล่าวให้สามารถสร้างรายได้ และปลดหนี้สินที่มีให้หมด
4. ตัดสินออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เงินเดือน 2X,XXX บาท และออกมาทำธุรกิจ ข้อที่ 3 เป็นหลัก
5. วางแผนและดำเนินการจัดหาทีมงานเพื่อรองรับงานที่จะเข้ามา
6.  รับงานทั้งในและนอก กรุงเทพฯ เพื่อกระจายชื่อแบรนด์เป็นของตัวเอง
7.  วางรากกฐานพื้นที่ในการดำเนินการเกษตรผสมผสาน เพื่อกลับสู้ถิ่นเดิม
8.  ดำเนินชีวิตเรียบง่าย ในบ้านที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเองและครอบครัว
9. เป้าหมายสำเร็จลุล่วง ไปด้วยดี ชีวิตมีความสุข

บทที่ 2 : วางแผนชีวิตใหม่ และวัตถุประสงค์

ความล้มเหลวผมยังเก็บไว้เป็นประสบการณ์เสมอ แต่ผมไม่ขอเล่าเรื่องที่มันผ่านมา เดี๋ยวมันจะดราม่าจนเกินไปครับ เมื่อเริ่มต้นก็ต้องมีการวางแผนการใช้ชีวิตไว้ครับ ด้วยการทำงานที่ตัวเองถนัด
**ความสามารถผมคือ**
- ผมเรียนจบ IT ครับ
- ผมเป็นนักฟุตบอลเก่า
และงานของผมที่ทำตอนนี้คือ
- ทำงานประจำเกี่ยวกับ IT ครับ
- งานเสริม : รับซ่อมคอมนอกสถานที่
- หลังเลิกงานวันธรรมดา : รับตัดสินบอล สนามเช่า

หลังจากที่ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน เคยเล่าเรื่องของตัวเองให้คนอื่นฟัง บางคนก็อึ้งบางคนก็ขุดเอาเรื่องตัวเองมาทับถมเรา เพื่อให้ตัวเองดูดี ดูน่าสงสารกว่า เรา  เอออ!!!! ปุถุชน คนธรรมดา  บนโลกที่แสนจะน่าเบื่อนี้ แปลก ชอบเอาชนะคนอื่น ชอบทำให้คนอื่นขายหน้า 5555 และต่อจากนั้นผมก็เริ่มร่างโครงการ"Go Life My Home"  ทำเพื่อตัวเองและครอบครัวที่ผมรัก ผมฝันว่าจะกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิดให้จงได้ เริ่มโครงการปี กันยายน 2558 เป็นต้นมา
วัตถุประสงค์
1. เพื่อกำหนดแผนและขั้นตอนการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
2. เพื่อกำหนดเป้าหมายในแต่ละขั้นตอนอย่างมีระบบ
3. เพื่อเตรียมพร้อมในการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต


เริ่มต้นบทที่ 1 เล่าเบื้องหลังชีวิต

หลังจากผมเขียนบทความ จั๊วหัว กล่าวเปิดบล็อกไปครั้งที่แล้ว วันนี้ผมจะมาเริ่มเรื่อง เข้าเรื่องกันเลยนะครับ เดิมทีเป็นคนต่างจังหวัด เป็นคนจังหวัด....... ผมเรียนจบชั้นมัธยมจาก ร.ร. ประจำจังหวัด และก็เต็ดเตร่ เข้ามาเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพ เพียงเพื่อ ความฝันที่ จะเป็นนักเตะสโมสร ค้าแข้ง และความฝันก็ไม่ได้อย่างที่ผมฝัน ผมวิ่งไล่หาความฝันอยู่ 2 ปี เพื่อสานฝันของตัวเอง และก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนแม่บอกกับผมว่า "เลิกเถอะลูก เรียนเถอะลูก" น้ำตาไหลครับ

หลังจากนั้นผมตั้งหน้า ตั้งตาเรียน เพียงเพื่อจบออกมาทำงานดี บริษัทดีๆ ระหว่างเรียนผมก็ทำงานเสริมบ้างเป็นบางครั้ง ในตำแหน่งลูกจ้าง ผมจบออกมาก็ยังเป็นลูกน้องเค้า นี่ก็ผ่านมา 5-6 ปีแล้ว ตำแหน่งเดิมคือลูกน้อง

จนมาวันนึงผมมานั่งดูสมุดบัญชี เงินเก็บไม่มีสักบาท แถมยังเป็นหนี้อีก จนมองว่าสังคมจอมปลอมนี้มันไม่ยั่งยืนแล้ว เงินเดือน 2 หมื่น หลายคนอาจจะบอกว่าเยอะลองมาแยกรายจ่ายผมมั้ยครับ
เงินเดือน  20000 บาท
- ค่าห้อง 4500 บาท
- ค่างวดรดมอไซด์ 4200 บาท
- ค่าโทรศัพท์ 1000 บาท
- ค่าบัตรเครดิต 4000  บาท
- ค่าน้ำมันรถ 1500 บาท ต่อเดือน
- เหลือนั้น ค่ากิน ค่าของใช้

เพราะเราเห็นคนอื่นมี เลยอยากมี ถ้าไม่มีก็ดูเราต่างจากคนอื่นนะผมว่า จะมองผมผมเองที่ฟุ่ยเฟือย ก็ใช่ แต่มองนั่งคิดอีกว่าแล้วเงินที่หามาได้เอาไปทำไรหมด

มีช่วงนึงที่ผมติดพนันบอล ต้องหาเงินจ่ายโต๊ะทุกวันอังคาร - ศุกร์ วันละ 1000 บาท แล้วจะไปไหนได้เพราะผมมันโง่ที่เข้าไปยุ่งกับมันเอง